“อาหาร”…จาก “ร้าน”…สู่ “ดิลิเวอรี่”…ถึง “ทูโก”

อาหารทูโก (To Go) น่าจะเป็นทางเลือกที่ตอบสนองความต้องการได้ดีในระยะยาว เพราะผู้บริโภคสามารถเลือกได้ในหลากหลายรูปแบบ ตามลักษณะของการกินไม่ว่าจะเป็นกินแบบมีบรรยากาศ กินแบบรีบเร่ง เตรียมไว้เพื่อที่จะกินในภายหลังหรือเอาไปให้คนอื่นกิน ความมีอิสระใน การเลือกและการได้สัมผัสอาหารที่จะกินโดยตรง ทาให้มีความรู้สึกที่ดีต่ออาหารที่จะกินมากกว่าอาหารเดลิเวอรี่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ของ คนเมือง น่าจะสะท้อนความต้องการของอาหารทูโกได้เป็นอย่างดี

รศ.ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต

       วิวัฒนาการ “ธุรกิจอาหาร” ที่มุ่งสู่ผู้บริโภค ดูจะเป็นแบบอย่างธุรกิจที่มี     การเคลื่อนตัวตอบสนองลูกค้าที่เป็นรูปธรรมชัดเจน  ไม่ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะขยับตัวแบบใด ท่าใด ก็ไม่รอดพ้นสายตาของผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร
ไปได้

       จากการที่พฤติกรรมการบริโภคอาหารนั้นผูกติดกับ “ร้านอาหาร” ทั้งรูปแบบ “ภัตตาคาร” “สวนอาหาร” หรือชื่อที่ตั้งขึ้นตามสมัยนิยมก็ตาม  ทำให้ธุรกิจอาหารมักจะเปิดตัวในลักษณะบริเวณที่กว้างขวาง โอ่โถงเพื่อเรียกลูกค้า  และทำให้    แบรนด์แต่ละสถานประกอบการเติบโตในใจของลูกค้าแบบไม่รู้ตัว

       เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป  โดยเฉพาะคู่แข่งในธุรกิจอาหารขยายตัวอย่างรวดเร็วภายใต้ฐานความคิดที่ว่า “อาหารเป็น 1 ในปัจจัย 4” ที่มนุษย์ต้องกินทุกวัน  กลยุทธ์การกำหนดรูปแบบของธุรกิจและการบริการด้านอาหารจึงต้องพัฒนาไม่ใช่แค่สอดคล้องกับสถานการณ์เท่านั้น  แต่เลยไปถึงการคาดการณ์ในอนาคตของการบริโภคอีกด้วย

       “อาหารดิลิเวอรี่” เข้ามาสอดรับกับพฤติกรรมที่ “รอไม่ได้ ช้าไม่เป็น” และ “เมื่ออยากกินต้องได้กิน” ไม่ต้องเดินทางไปเสาะแสวงหาร้านต่างๆที่เขาว่าอร่อยดี…รอให้อาหารมาถึงบ้าน ที่ทำงาน สะดวกสบายเป็นที่สุด เรียกว่าอยู่ที่ไหนก็กินได้ตามนิสัยของคนไทยที่มักจะถูกตั้งฉายาว่า “บริโภคนิยม”

       เรื่องของอาหารดิลิเวอรี่เติบโตอย่างชัดเจนในยุคที่โควิด – 19 มาเยือน แม้โควิด – 19 จะผ่านไป ก็ช้าเกินไปที่จะถอนตัวจากอาหารดิลิเวอรี่เพราะพฤติกรรมการบริโภคที่สะดวกสบายได้หยั่งรากลึกเสียแล้ว

        เมื่ออาหารดิลิเวอรี่บูม ผู้ประกอบการอาหารทุกสถานประกอบการไม่เว้นทั้งร้านเล็ก ๆ ตามตรอกซอกซอย จนถึงโรงแรมใหญ่ ๆ ต่างก็แข่งขันกันจนเปรียบว่าเป็นสงครามด้านธุรกิจอาหารที่ต่อสู้กันสุดฤทธิ์

        สารพัดปัญหาไม่ว่า ขยะ  การจัดส่งที่ต้องรอ ราคาส่งก็แพงเกินเหตุ ส่งแล้วเปลี่ยนใจก็ยาก จนถึงอาหารไม่ตรงปก ฯลฯ

        นี่แหละ ! เป็นประเด็นสำคัญที่ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารต้องดิ้นต่อไป

        …ที่กำลังดิ้น ! เพื่อไปสู่ “อาหารทูโก” (To Go)!

        “อาหารทูโก”  เป็นรูปแบบของการนำเสนอเพื่อตอบสนองให้กับผู้บริโภคช่วยตัดสินว่าใช่หรือไม่ ? โดยเฉพาะในภาวะที่เร่งรีบ การจะนั่งแช่ในร้านอาหารที่โอ่โถง เลิกพูดถึงเลย ลองมาดูกัน…

  • จากลูกค้าที่ใช้เวลาในร้านอาหาร เฉลี่ยประมาณมื้อละ 40-60 นาที ทำอย่างไร ? จึงจะใช้เวลาเพียง 4-6 นาที ก็ได้บริโภคอาหารที่ต้องการแล้ว
  • ผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร  ร้านค้าที่ต้องใช้พื้นที่ประมาณ 200 ตารางเมตร หรือต้องเซ้งตึกแถว 2- 3 คูหาเพื่อรองรับลูกค้า  ถ้าใช้แค่ 2 ตารางเมตร เป็นไปได้มั้ย ? โดยต้องยึดหลักที่ว่า “ย่อไซส์ร้าน แต่บริการดีขึ้น”
  • ร้านค้าต้องมีคนงานนับ 100 คน เหลือเพียงคนเดียวได้มั้ย ?
  • ไปให้ถึงลูกค้าจริง ๆ แบบ To go โดยวิ่งเข้าหาลูกค้า (ยกร้านค้าไปหาคุณ)

        นั่นคือ “อาหารแบบ To Go” ซึ่งเป็น Model ใหม่ ที่จะสามารถตอบโจทย์ข้างต้น “ซื้อไวไปไวในยุคเร่งรีบ”  ทั้งนี้เพราะ เบื้องหลังของ “To go” คือการทำ Design Thinking นับตั้งแต่การคิดคอนเซปต์ของร้าน  เน้นเมนู Pain Point ของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นสลัด แซนด์วิช น้ำผลไม้สกัดเย็น ตามที่ To go ยี่ห้อดัง ๆ นำเสนออยู่ขณะนี้ เจาะอินไซด์ของลูกค้า  โดยเฉพาะการเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายฉับไว รักสิ่งแวดล้อมที่เป็นรูปธรรม ทั้งแพ็กเกจจิ้งที่เป็นกล่องกระดาษ ถุงกระดาษ

        To go จะเห็นรูปแบบที่ชัดเจนคือ “การย่อส่วน” ตั้งแต่สถานประกอบการ จำนวนคนงาน จนถึงราคา แต่ก็จะมีสโลแกนที่ว่า “ย่อราคา ไม่ได้ย่อคุณภาพ”

         จุดสำคัญของ To go ที่จับใจผู้บริโภคได้คือ การเสพติดแบรนด์  ทำอย่างไร ? จะยกแบรนด์ในใจของคุณมาหาคุณได้ทุกที่ จึงเป็นโจทย์สำคัญที่ผู้ประกอบการแบรนด์ใหญ่ ๆ ไปแสวงหาพื้นที่เพื่อจัดการอาหาร To go เติมเต็มให้กับชีวิตของลูกค้าเพียง 2 ตารางเมตรเท่านั้น

        การใช้แอปต่าง ๆ ที่ลูกค้ามักจะคุ้นเคยในยุค Digital นั้น To go ก็ต้องตอบสนองเพียงปลายนิ้วสัมผัสได้อย่างสมใจ  หรือแม้แต่แอปยอดฮิตขณะนี้อย่าง Too Good to go ซึ่งขายอาหารเหลือให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อ “อาหารเหลือ”
ที่ขายไม่หมดจากร้านอาหาร จะช่วยตอกย้ำคำว่า “ถูก ดี / ลดปริมาณขยะ”

         ท่านผู้อ่านคิดอย่างไร ? ครับ กับวิวัฒนาการของ “การประกอบการอาหาร” ที่รวดเร็วจริง ๆ ไม่ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปมากมายเพียงใด ?  ผู้ประกอบการก็สรรหารูปแบบและกระบวนการที่ตรงใจผู้บริโภคได้มากที่สุด

        “Design Thinking” นี่แหละครับคือสิ่งสำคัญ ส่วน “AI” ที่พูดๆกันอยู่กลับกลายกลายเป็นเรื่องพื้นๆไปเสียแล้ว.

รศ.ดร.สุขุม  เฉลยทรัพย์
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

อาจารย์ ดร.กมลกนก เกียรติศักดิ์ชัย

คณบดีโรงเรียนการท่องเที่ยวและบริการ

        To go เป็นความคุ้นชินในต่างประเทศ เราจะได้ยินคำว่า To-go Order เสมอๆ ในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศในทวีปเดียวกัน และผสมด้วยคำว่า Take-out or Takeout/ Carry-out ในบางประเทศ ส่วนในสหราชอาณาจักร และประเทศในทวีปยุโรปก็จะคุ้นชินกับคำว่า Take-away Order/Takeaways หรือแม้กระทั่ง Grab-n-go ในประเทศอินเดีย การบริการอาหารในรูปแบบนี้มีขึ้นมาตั้งแต่ก่อนศตวรรษที่ 19 สำหรับชนชั้นแรงงานที่ต้องการประหยัดเวลา ประหยัดเงิน เนื่องจากการดื่มด่ำในรสชาติและบรรยากาศของการรับประทานอาหารไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับพวกเขา การกลับไปทำงานแบบอิ่มท้องต่างหากที่เป็นเรื่องหลักในชีวิต วัฒนธรรมของอาหาร To-goนี้ ถูกส่งผ่านมาตามกาลเวลา เพื่อให้เข้ากับ Food Outlet ในรูปแบบ Fast Food หรืออาหารจานด่วนในปัจจุบัน แม้กระนั้นก็ตามเมื่อพิจารณาลึกลงไปแล้ว รูปแบบและจุดประสงค์ของการให้บริการอาหารในลักษณะนี้ก็แทบจะไม่ต่างกันเลย ในช่วงยุค COVID การสั่งอาหารกลับบ้าน จึงกลายเป็นสีสันใหม่ในประเทศไทย ด้วยความคิดสร้างสรรค์ แรงผลักดันทางเศรษฐกิจ และการบริการอย่างไทย ทำให้ To-go Order ในประเทศไทยและทวีปเอเชียโดดเด่นขึ้น ก็เหมือนกับการนำสีสันเดิมของต่างประเทศ มาสร้างเฉดสีใหม่ในเมืองไทย

ดร.จันทร์จนา ศิริพันธ์วัฒนา

ผู้จัดการสวนดุสิตโฮมเบเกอรี

อาหาร To Go

          การที่เราใช้ชีวิตในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ผนวกกับความเร่งรีบในการเดินทางเพื่อให้รีบไปให้ถึงที่ทำงาน  มีร้านสะดวกซื้อตามจุดพักรถยนต์ทำอาหารพร้อมรับประทานที่สามารถ “พกพา” หรือ To Go สามารถซื้อและนำไปชำระได้อย่างรวดเร็ว ณ จุดจ่ายเงิน  โดยอาจจะเป็น แซนวิช เบอร์เกอร์  ข้าวปั้นแบบญี่ปุ่น หรือจะเป็นข้าวกล่อง หรือโจ๊ก ที่อยู่ในภาชนะปิดแบบพร้อมตักทานได้ง่าย หรือจะเป็นอาหารประเภทสลัดผัก ที่มีผัก เนื้อสัตว์ และน้ำสลัดที่หลากหลาย ก็จะมีเป็นทางเลือกให้ลูกค้ากลุ่มรักสุขภาพ          

         สวนดุสิตโอมเบเกอรี่ มีอาหารประเภท To Go นี้ไว้ให้บริการ อาทิเช่น กาแฟสดและเครื่องดื่มสมุนไพรพร้อมรับประทานใส่ขวดพร้อมรับประทานชื่อว่า “อุ่นใจ” และอาหารพร้อมรับประทาน To Go ที่พร้อมจะให้หยิบไปอิ่มอร่อยได้ทันที เช่น ขนมจีบ  ซาลาเปา แซนวิชทูน่า   ชุดคาร์โบไฮเดรตให้พลังยามเช้า ชุดของนึ่งมัน กล้วย ข้าวโพด ก็ยังได้รับความนิยม รวมถึงข้าวกล่องอาหารเช้าที่มีอาหารง่ายๆ ผัดขึ้นมาร้อนๆ ทานคู่กับไข่ดาวหรือไข่พะโล้ เช่น ผัดผัก หรือ ผัดเผ็ด ซึ่งก็เป็นทางเลือกของอาหาร To Go  แบบชาวสวนดุสิต  ขอเชิญแวะมา Grab & Go กันได้ค่ะ ขอให้อร่อยและอิ่มยามเช้าที่เร่งรีบกันนะคะ